ชมรมรถถีบโบราณจันทบูร..ถีบ-ทุกข์-ทิ้ง-ทั่ว-ถิ่น-ทาง-ไท
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช

2 posters

Go down

สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช Empty สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช

ตั้งหัวข้อ  มยุรธุช Mon Mar 30, 2009 7:26 pm

นิราศแหลมสิงห์ ชมรมรถถีบโบราณจันทรบูร

ฯ นิราศจรจากร้างไกลรัก มิพบพักต์สบพิศดวงสมร
เพราะสัญญาต่อเพื่อนพ้องต้องจำจร กลุ่มจักรยานจันทรจันทบูร
สองเท้าถีบย่างไปข้างหน้า มิแรงล้ามุ่งไปในถนน
แม้นเหนื่อยเพียงไหนจำต้องทน ไม่พร่ำบ่นอดทนก้าวเดินทาง

ฯ ด้วยรถถีบของเราถึงเก่าแก่ ไม่ย่ำแย่เดินทางการถนน
ถึงหนักบ้างเบาบ้างทางขึ้นลง ตามประสงค์วงล้อที่หมุนตาม
มันหมุนวนเวียนไปเหมือนดั่งโลก มีเศร้าโศกหรรษาอย่าสงสัย
อันชีวิตเกิดกาลผ่านกันไป อย่าห่วงไซร้เกิดตายกระไรมี

ฯ จุดหมายในวันนี้มีนามว่า แหลมสิงห์งามตาหาดสวยแสน
ทั้งตึกแดงแก่เก่าสถิตแดน ไปตามแผนต่อด้วยคุกขี้ไก่
สองสิ่งกล่าวไปตามความอ้าง วางทิ้งร้างสร้างทิ้งไว้อนุสรณ์
ตอนเมื่อคราฝรั่งเศสได้จากจร เตือนให้ตรมใจจิตบ้านเมืองไทย

ฯ มันทำเราไว้ให้เจ็บนัก ดูซักครั้งแคลนคลาในสงสัย
ประจักษ์จริงแก่ตาให้จงใจ ความจัญไรเมืองขึ้นริ้นเหลือบแรน
ความแค้นนี้สุดแสนช่างแรงเหลือ มิจางเจือเหลือซากให้สงสาร
น้ำเงินแดงขาวสามแถบดั่งดังมาร มันประจานจบเจนในแดนไทย

ฯ เมื่อพร้อมผองเพื่อนพี่ ณ.ที่มั่น มิตรร่วมปั่นร่วมทางนามสหาย
พรั่งพร้อมผ่องแผ้วที่เรียงราย ไหว้ทักทายเจนจบเคารพกัน
พึงเพียบพร้อมน้อมนบในวิถี อันนิสัยเกิดก่อสร้างสรรค์มี
ประเพณีน้ำมิตรชิดในทรวง ดุจดังบ่วงรึงรัดชิดสนิทนาน


ฯ เห็นรอยยิ้มพรักพร้อมทั่วถ้วนหน้า สุขอุราในจิตให้คิดหวล
แม้ได้รับรอยพักต์จากทรามทรวง ให้คิดหวนถึงเจ้ายอดดวงใจ
เพลานี้ร่วมสหายหลากหลายมิตร ถึงใจจิตชื้นชุ่มให้หฤหรรษ์
ได้แต่หวังใจแอบแนบนวลพรรณ ขอนางนั้นแบ่งใจนิดจิตพี่พอง

ฯ เมื่อรวมพร้อมร่วมปั่นก้าวย่างถีบ มิเร่งรีบค่อยค่อยตามเป็นทิวแถว
จัดทางตรงเรียบชิดยาวเป็นแนว เห็นทางแล้วข้างหน้าแลห่างไกล

ฯ ถึงเกาะขวางขวางจิตให้คิดหน่วง กางกั้นปวงใจจิตให้คิดถึง
เพราะเกาะขวางขวางจริงไม่นิ่มนวล จึงได้กวนป่วนปั้นให้บรรลัย
รถหมอปี๋ขี่มาถึงวายป่วง ล้อหน้าลวงพรางแตกให้สงสัย
มีสามล้อสามร้างทางยังไกล มิได้ไปจอดซ่อมลงข้างทาง

ฯ แลเมื่อเห็นพึงคิดจิตอนาถ มีสามล้อยังพลาดให้ไหลหลง
อันรถเราเพียงสองล้อคงต้องปลง มิพังลงตรงนี้คงเป็นดวง
นึกหลายครั้งแลหลายคราให้น่าคิด รถพิชิตสุดพิเศษของพี่หมอ
เคยข้ามก้าวไปไกลตามใจพอ แต่ครั้งนี้จำต้องรอเพราะล้อพัง
เมื่อเสร็จสรรพการกิจที่คิดแก้ มองพอแลพอรับจับรถต่อ
ก้าวขึ้นอานการปั่นไม่รั้งรอ เพียงแต่ขอมุ่งมั่นไปตามทาง

ฯ ถึงหนองบัวมิเห็นบัวยิ่งมัวหมอง ให้พี่ตรอมมิเห็นหน้าเจ้าดวงขวัญ
จำต้องห่างทางไกลจางร้างครัน ขอมิ่งขวัญมาแนบชิดจิตคงเพลิน
เมื่อเลี้ยวผ่านวัดเนินโพธิ์ขอโพธิ์พึ่ง กระหวัดจิตให้คิดถึงดั่งเรียม-ขวัญ
ในแผลเก่าแผลรักตำนานนัน ทั้งสองนั้นตั้งจิตกับกับพระโพธิ์
ขอให้รักเรามั่นและเที่ยงแท้ ไม่ผันแปรโศกศกดังเรียม-ขวัญ
แม้ได้อย่างสัญญาหน้าโพธิ์นั้น ขอเรียม-ขวัญดลจิตมิแปรไป

ฯ พอผ่านย่านนามว่าสี่มุมเมรุ ฟังไม่เจนแปลกจิตคิดฉงน
ใครหนอตั้งนามนี้มิมงคล ดูอับจนทางตั้งหรืออย่างไร

ฯ ครั้นเข้าเขตบางสระเก้าเราก้าวต่อ มิรั้งรออุปสรรคที่ขัดขวาง
หนทางหน้าแม้จะจบลบเลือนราง จะขอตามสู้ปั่นมั่นกันไป
บางสระเก้าแดนนี้มีคำเอ่ย เป็นเฉลยรวมพลคนทำเสื่อ
ต่างทอสานงานศิลป์ให้เลื่องลือ ดังระบืองามจริงสมบัติจันทร์


:rabbit
:
มยุรธุช
มยุรธุช

จำนวนข้อความ : 216
Join date : 05/03/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช Empty Re: สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช

ตั้งหัวข้อ  มยุรธุช Mon Mar 30, 2009 7:30 pm

ฯ ถึงจุดพักนัดหมายในช่วงแรก เราเป็นแขกที่นี่เป็นคราสอง
อนามัยบางสระเก้าให้จำจอง เคยรับรองคราแรกนั้นนานมา
ยังจำได้ถึงเหตุในหนหลัง ที่พลัดกันงงจิตให้งวยงวน
นัดเจอที่นีให้พร้อมปวง แล้วได้ร่วมการปั่นกันต่อไป

ฯ มาครั้งนี้รวมร่วมมิได้หลง ต่างจิตตรงเข้าใจในที่หมาย
พอรวมพร้อมพลพรรคมิกลับกลาย จึงได้หมายมุ่งมั่นทางต่อไป

ฯ เมื่อก้าวเขตข้ามแดนแหลมสิงห์ ความหิวป่วนปั่นให้ประวิง
สุริยาตรงดิ่งตอนเที่ยงวัน เพื่อนพ้องได้ร่วมกันนัดพัก
ประจักษ์เชิงสะพานข้ามแหลมสิงห์ แต่เราแยกออกหาที่กิน
มาด้วยกันแปดท่านละพวกมา เหตุเพราะมากกันสิ้นจะกินยาก
เพลาจากโรยร้างมิใช่ที่ จึงข้ามถิ่นเข้าตลาดตามทางมี
พลันอิ่มมี่ถ้วนทั่วทุกท่านไป ในตลาดแหลมสิงห์ดูพึงแปลก
เป็นที่แลกจับจ่ายมิสับสน ดังตลาดกาลก่อนย้อนมาดล
เป็นดังมนต์ย้อนอดีตนานนมมา พลันให้คิดกลับไปยังวัยเด็ก
ตอนยังเล็กมิได้ซึ่งเดียงสา ตลาดที่เราเคยเนามา
มิต่างแตกที่นี่เท่าไหร่เลย พออิ่มพร้อมน้องพี่ก็ร่วมปั่น
ไปรวมกันอีกคราที่นัดหมาย ไม่แคลนคลายรวมกันดังเช่นเดิม

ฯ พอถึงเขตแหลมสิงห์มิอิงแอบ ตรงไหนแหลมตรงไหนคมชวนสงสัย
ฤาจะแหลมดังศรรักปักดวงใจ มั่นคงไว้ในจิตไม่คิดจาง

ฯ ถึงจุดหมายจุดแรกนั้นเป็นคุก แลดูจุกจิตอัดย้อนสมัย
ดูมันทำทำได้กับคนไทย ไอ้บรรลัยมันย่ำเหยียบกรีฑาเรา
มองเข้าไปข้างในมันทำได้ ขังคนไทยไว้ใต้อุ้งตีนไก่
ให้ขี้ยีย่ำซึ่งคนไทย จงตราไว้จดจำมันทำเรา

ฯ ย้อนคิดถึงมันให้หวั่นหวาด แผลยังลากลงลึกทุกสมัย
มาบัดนี้แผลเปิดกับคนไทย กรณีเขาพระวิหารนั้นไงจงแลดู


ฯ ละออกจากที่ขังเราจำไว้ ผ่านต่อไปตึกแดงแสนประสงค์
มองดูตึกสีแดงให้จำจง มันทาลงสีชาดให้บาดตา
สีชาดดังสีเลือดเชือดน้ำมิตร มหามิตรมหามารมองให้สม
เหมือนดังเลือดบรรพบุรุษเราที่มั่นคง อยู่ยั้งยงยืนถิ่นซึ่งเมืองจันท์

ฯ ถึงหาดทรายชายหาดมิพลาดพลั้ง สมจิตหวังสมใจที่หมาดหมาย
คิดถึงน้องปองจิตมิคิดคลาย อยากสมหมายในหวังด้วยรักจริง
หวังให้ลมพัดผ่านไปถึงน้อง สื่อสารปองดวงใจหทัยพี่
ให้ทั้งหมดทั้งปวงรักที่มี ขอฤดีรักบ้างเพียงเสี้ยวใจ

ฯ จอดรถถีบเรียงรายตามชายหาด มองสะอาดเป็นระเบียบน่าหลงใหล
ด้วยใจรักมันจริงจึงปลงใจ รักษาไว้สืบสิ้นชีวิตมี

ฯ นั่งซักพักคิดซักนิดรอการก่อ ได้คิดรอต่อแต่งการโวหาร
เพลานั้นตัวท่านผู้ประธาน ต่างเรียกขานรวมลงประสงค์ใจ

ฯ ณ.ที่รวมเรานั้นใครช่างคิด ดูตามติดเป็นศาลาอยู่กลางน้ำ
ช่างสร้างแต่งแลสวยสดดูงดงาม มีนามตามพุ่มพวงให้ลวงใจ
ชื่อศาลาพุ่มพวงให้พวงพุ่ม มันอัดสุมในจิตงงงวยหลาย
อันพุ่มพวงบ่วงใจมิใคร่คลาย แม้นมิตายจวงจิตเจ้าจงเมตตา

ฯ นั่งรอพร้อมพรักถ้วนทั่วหน้า เหตุใดหนาท่านประธานเราไปไหน
แลไม่เห็นดูไม่หาช่างร้อนใจ หรือร้างไปจากเราให้ลวงตา
ต่อท่านก้าวปรากฏกายบนศาลา มิรู้หนาความที่รอมันสลาย
เสียงปรบมือคลาคล่ำมิรู้คลาย แสนยินดีมิหน่ายเหนื่อยเมื่อท่านมา

ฯ เมื่อท่านมาพร้อมพรั่งเราก็เริ่ม ประชุมเปิดประชุมปิดเป็นนิสัย
กล่าวถึงเล่าว่าถึงเรื่องกันเรื่อยไป ให้เจนใจเจนจบมติมี
คิดเห็นบ้างอ้างบ้างตามกาลก่อ เรื่องก.ก.ท.บอกกล่าวให้สงสัย
มันดีงามตามจริงหรืออย่างไร ควรเท่าไหร่ให้เราร่วมลองตรึกดู
มยุรธุช
มยุรธุช

จำนวนข้อความ : 216
Join date : 05/03/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช Empty Re: สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช

ตั้งหัวข้อ  มยุรธุช Mon Mar 30, 2009 7:41 pm

ฯ มีดีมั่งเสียบ้างตามความโลก มิเศร้าโศกเสียใจให้อึ่งมี่
สรุปความตามเห็นที่พึงมี ไม่เข้าทีเราจึงเลิกลาร้างไป
กล่าวอ้างตามเรื่องพอหอมปาก สรุปมากความเรื่อยจะเหลวไหล
ปลดน้ำใจปลงคงจงใจ จบไปในประชุมมิตรคงเดิม

ฯ ถีบย้อนทางกลับมาตึกแดง ด้วยเรี่ยวแรงที่เพิ่มมิร่ำไร
จอดรถลงปลงจิตในดวงใจ รายเรียงไว้แนวยาวดูงดงาม
ต่างเรียงคนเรียงรถให้ดูสวย เพราะจำด้วยชักรูปเป็นสุขขี
อันมิตรเราพรั่งพร้อมประดามี ต่างถ้วนถี่เรียงร่ำให้จำนง
เมื่อชักรูปเสร็จถึงคราพัก ตามถนัดจิตจ้องตามวิถี
ใครอยากปั่นเที่ยวไปดูเข้าที หรืออยากจรลีลงหาดคงสมใจ

ฯ ณ.ครานั้นกลับปรากฏในเรื่องแปลก รถนั้นล้มโดนลมแรงให้พัดหลง
รถท่านพี่บวรนั่นเองที่ล้มลง ดูเหมือนจงใจลงล้มคันเดียว

ฯ เมื่อจับรถยกขึ้นดูการเถิด ว่ามันเกิดเสียหายที่ตรงไหน
ไม่เกิดรอยบุบบาดรำคาญใจ ไม่เป็นไรทั่วไปยังอยู่ดี
พอเสร็จการตรวจสำรวจของ ต่อใจปองมิตรมั่นในที่หมาย
ต่างย้ายแยกกันไปตามทางปลาย ตามจุดหมายที่คิดสนุกกัน

ฯ ต่างแยกย้ายแยกความตามทางคิด พี่ประดิษฐปั่นเที่ยวคงไม่หลง
ตามต่อด้วยลุงเหิมที่มั่นคง ทั้งสองจงสนุกอย่างใจมี

ฯ มาดูตามความต่อสามสหาย ลุงไหมลุงจิ๋วต่างพร้อมมี
ประกอบกับลุงนัยรอบคอบดี เช็ครถดูทีมิรอรา
บาสแลด้วยลุงเผือกต่างช่วยเช็ค ลองซักเล็กแก้ซักนิดตามวิถี
เผื่อทางกลับปั่นไปไม่รั้งรี ความพร้อมมีจะกล่าวอ้างตามท่องทาง

ฯ เผลอไปนิดสหายเราเล่าไปไหน ท่านเล็กไงประกอบด้วยท่านพี่ตึ๋ง
ปั่นไปไหนทำไมไม่คำนึง แลดูจึงเหลือเราเล่าพี่ระ


ฯ อันกล่าวถึงเรื่องลมในเบื้องต้น อยากขอชมพี่ขวัญจำนรรจ์มาย
ที่ได้คิดคำเปรียบสุดคมคาย มิดูดายเอื้อนให้คิดสนิทใจ
บางครั้งลมราที่คราพัด ประหนึ่งปัดทุกข์สิ้นในสงสาร
ถ้าลมแรงขวางลมคงวายปราณ จักรยานต้องลมล้มดังจงใจ
มันล้มลงแลแปลกให้ชวนคิด ฉุกใจนิดลองใคร่ครวญที่สงสัย
ถ้าขวางลมขวางแรงให้จนใจ ประเปรียบไปในชีวิตตรองจิตจริง

ฯ เมื่อรวมพร้อมพลพักที่หลงเหลือ ต่างคราเครือคิดจะไปไหน
สรุปได้ตามความเราก็ไป รวมกับเล็กช่างเจไงที่สุดทาง
พอไปถึงพรั่งพร้อมกันคลาคล่ำ คนนู่นนั่งคนนี้ยืนดูขวยขรม
รอยยิ้มบนใบหน้าให้ตราจง แย้มยิบสนิทสมคงสุขใจ

ฯ เห็นผองเพื่อนพี่รักอยู่พลั่กพร้อม ตกลงจรจากนี่ไปที่ไหน
ต่างตรองตรึกคิดครุ่นกันต่อไป ต่างปลงใจจอดจบในร้านนึง
นำทางด้วยพี่หมอตามทางต่อ มิรั้งรอว่าร้านงามสดใส
อยากรู้จริงว่าจะเป็นอย่างไร ชื่อร้านไซร้ชบาน่าชมเชย
คิดถึงต้นชบาน่าเชยชอบ งามที่ดอกงามจริงตามวิสัย
แต่ไม่งามเกินขวัญแม่จอมใจ อยู่ที่ไหนคิดถึงเจ้าเฝ้าคร่ำครวญ

ฯ พอถึงร้านนั่งพักตามสั่งชอบ พี่หมอบอกออกปากวันนี้จ่าย
มีห้าร้อยต้องประสงค์จำนงหมาย มิเสียดายเบี้ยนี้จงดื่มกิน

ฯ ฝ่ายอีกข้างทางด้านกลุ่มลุงจิ๋ว ขอระลิ่วจรลีตอนบ่ายสาม
เพราะต้องปั่นกลับจริงมินิ่งดาย ขอเร้นกายจากจบสดับจร
พร้อมด้วยพี่เสรีเสรีนัก อยากร่วมปั่นร่วมไปในที่หมาย
ยังมีพี่สิทธิ์อีกท่านจะเกรงกลาย กลัวจะสายแสงพระลบจะลบเลือน
ทั้งห้าท่านร่วมปั่นกันกลับก่อน ชัดแจ้งจรมุ่งไปในจุดหมาย
ทางข้างหน้าอีกไกลไม่เดียวดาย ห้าสหายพากันปั่นระลิ่วไป

ฯ อันฝ่ายเราเพลาลับยิ่งลับเลื่อน พระลบเตือนคล้อยต่ำตามวิถี
ตามกล่าวอ้างเวลาและวารี สองสิ่งนี้เคลื่อนคล้อยไม่คอยใคร


แก้ไขล่าสุดโดย มยุรธุช เมื่อ Mon Mar 30, 2009 9:53 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
มยุรธุช
มยุรธุช

จำนวนข้อความ : 216
Join date : 05/03/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช Empty Re: สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช

ตั้งหัวข้อ  มยุรธุช Mon Mar 30, 2009 7:44 pm

ฯ เราต่างเตรียมตัวเพื่อเตรียมกลับ เรียกสหายรักร่วมน้องอย่าช้าสาย
ขึ้นจากน้ำทะเลที่สุขกาย มาร่วมหมายไปข้างหน้าตามความจริง
ทั้งน้องก๊อตน้องน๊อตมิรั่งรอ เพราะได้พอการเล่นจะจรจาก
มิลำบากปากท้องก็เริ่มหิว มิช้าชิวกินกันให้อิ่มมี่

ฯ พอพรั่งพร้อมพรั่งกันทั่วถ้วนหน้า จักได้พายุรยาดกันไปต่อ
ยังมีอีกที่หมายไม่รั้งรอ เป็นที่ขอเจนจบการเดินทาง

ฯ สะพานแหลมสิงห์เหยียดยาวที่ยาวเหยียด จะประเปรียบเทียบไปยังไงหนอ
อันความยาวมิได้เสี้ยวใจพี่รอ เพียงแต่ขอน้องนางจนเอ็นดู

ฯ สะพานแหลมสิงห์ยาวเหยียดนัก เชื่อมต่อพรรคผู้คนทั้งสองฝั่ง
ทางฝั่งนี้ฝั่งแหลมฯอยู่พร้อมพรรณ อีกฝั่งนั้นชื่อฝั่งบางกระไชย
เปรียบดังสายธารนี้ที่เชื่อมต่อ ให้ฝั่งสองรอรักสมัครสมาน
ภักดีในจิตมิตรยืนนาน ตลอดกาลนานสิ้นมิวางวาย

ฯ มองสะพานต่อเชื่อมดังสานรัก คิดจงหนักหวามใจให้หวาบหวาม
แม้สะพานใจน้องทอดเป็นทาน มิทรมานดวงจิตพี่คงดี
แค่เพียงนี้ตัวพี่คงอิ่มเอิบ อยากจะเติบต่อรักสมัครสมาน
ผูกใจเจ้ากับใจพี่ให้สุดนาน ตราบชั่วกาลชีวีสิ้นที่พี่มี

ฯ มิตรทั้งผองปั่นบ้างแลจูงบ้าง ด้วยสะพานยาวเหยียดเกินแรงขี่
แต่ทุกผู้ทุกท่านล้วนสวัสดี ยิ้มรื่นรี่ชื่นใจที่ผ่านมา
ต่อถึงกลางสะพานที่ใจหมาย มิเดียวดายอยู่ครบทุกทั่วหน้า
แต่ดูแปลกมีหนึ่งที่คลาดครา ท่านบวรร้างลาไปอย่างไร
มิเห็นหน้าพี่ใจจิตป่วน สุดควรการเดาว่าไปไหน
ต่างถามการต่อตอบกันไป มิร่ำไรจากจรไปก่อนควร
อันพี่มีกิจทำไมร้าง มิบอกบ้างให้รู้แจ้งว่าไฉน
ทำไมเรามิใช่คนอันไกล พี่จรไปอย่างมิไม่เห็นควร

ฯ ด้วยเมื่อครบจบสิ้นเราทั้งปวง ต่างลารวงย้ายแยกกันต่อไป
ชักรูปเสร็จสิ้นเป็นอันจบ เพื่อได้พบนัดหน้ามากันใหม่
ต่างยิ้มแย้มปรีเปรมให้สุขใจ มินานไกลผองเราจะรวมกัน

ฯ ขอสิ้นสุดการโวหารในครานี้ ด้วยใจที่รักงานการอักษร
ในคราวหน้าที่เราจะร่วมจร เพื่อพรั่กพร้อมงานนี้ด้วยจริงใจ
จะคงมั่นในจิตของน้ำมิตร จะขอคิดเรื่องราวในครั้งใหม่
มีสิ่งใดขัดข้องมิตรงใจ ขออภัย ณ.ที่นี้อย่าขุ่นเคือง
มยุรธุช
มยุรธุช
มยุรธุช

จำนวนข้อความ : 216
Join date : 05/03/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช Empty Re: สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช

ตั้งหัวข้อ  มยุรธุช Mon Mar 30, 2009 9:49 pm

ลองอ่านสาส์นฉบับเก่าไปก่อนนะครับ สาส์นฉบับนี้เป็นสาส์นที่เขียนเป็นแบบนิราศ ฉบับแรกของชมรม อ่านยากนิดนึงครับ แต่อยากให้ลองอ่านกันดู สาส์นทริปแหลมแม่พิมพ์(สวนสน)รอก่อนนะครับยังไม่ว่างเขียนเลย(ที่จริงทริปนี้ต้องเปลี่ยนไรเตอร์ครับแต่ด้วยความไม่พร้อมของไรเตอร์ท่านอื่นผมจึงรับหน้าที่ไปก่อน)
มยุรธุช
มยุรธุช

จำนวนข้อความ : 216
Join date : 05/03/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช Empty Re: สาส์นชมรมมรถถีบโบราณจันทบูร "นิราศแหลมสิงห์"โดยมยุรธุช

ตั้งหัวข้อ  ท้าวยายม่อม Tue Mar 31, 2009 6:46 am

.....อุเหม่......โวหารเจ้า..ช่างร้ายเหลือ.....อิอิ Laughing
ท้าวยายม่อม
ท้าวยายม่อม

จำนวนข้อความ : 203
Join date : 25/02/2009

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ